นี่เป็นภาพเหตุการณ์ขณะชายเสื้อสีดำใช้ไฟฉายส่องหน้า แล้วพูดจาต่อว่าชายเสื้อสีน้ำเงินที่ได้รับบาดเจ็บอยู่บนพื้นถนน โดยกล่าวหาว่าอีกฝ่ายชะลอรถจนทำให้รถชน แล้วยังทำท่าจะทำร้าย โดยไม่สนว่าอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บ จากภาพจะเห็นชายเสื้อสีดำใช้ไฟฉายส่องหน้าคู่กรณี แล้วใช้เท้าเตะอีกหลายครั้ง จนอีกฝ่ายร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
คลิปนี้มีผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายภาพไว้ได้แล้วนำไปโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ โดยระบุว่าช่วงหนึ่งในคลิปวิดีโอจะเห็นภาพชายเสื้อสีดำเดินกลับไปที่รถ ก่อนจะเดินกลับมาหาคู่กรณี ระหว่างนั้นมีเสียงคล้ายดึงลำกล้องปืนดังขึ้น จึงคาดว่าน่าจะไปหยิบปืนมาด้วย
ผู้โพสต์ บอกอีกว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณ 03.00 น. วันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเกิดเหตุรถยนต์ชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ ทำให้ชายคนขี่รถและคนที่นั่งซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บ จากนั้นชายคนขับรถยนต์สวมเสื้อสีดำคู่กรณี ก็เดินลงมาโชว์กร่างใส่คนเจ็บ จากนั้นยังพยายามไล่คนที่มามุงดูและห้ามไม่ให้ถ่ายคลิป เธอไม่วางใจจึงถอยรถไปจอดฝั่งตรงข้ามแล้วสังเกตการณ์ จนเห็นชายเสื้อสีดำ ทั้งใช้เท้าเตะและใช้ไฟฉายส่องหน้าคู่กรณี โดยยังห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือ แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้ทำแผลให้คนเจ็บเป็นอย่างดี
ผู้บาดเจ็บซึ่งปรากฏในคลิปวิดีโอ เป็นชายอายุ 42 ปี บอกว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับที่พักโดยมีเพื่อนอีกคนนั่งซ้อนท้าย จู่ ๆ ก็ถูกรถยนต์ชนที่ท้ายรถเข้าอย่างจัง จนกระเด็นตกลงไปคนละทิศละทาง ส่วนเขาได้รับบาดเจ็บศีรษะกระแทกพื้นอย่างแรงจนมีอาการเบลอ และจำอะไรไม่ได้อีกเลย มารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว
ผู้บาดเจ็บอีกคนที่นั่งซ้อนท้าย บอกว่า หลังถูกรถชน เห็นชายคู่กรณีมีท่าทีโมโหเดินลงมาหาเพื่อนแล้วใช้เท้าเตะหลายครั้ง ก่อนที่จะเดินกลับไปที่รถคล้ายไปหยิบอาวุธแต่เห็นไม่ชัดเจนเพราะอยู่ไกล จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำส่งโรงพยาบาล ก่อนที่ต่อมาจะได้พูดคุยกับคู่กรณี อีกฝ่ายยอมรับว่าทำไปเพราะโมโหที่รถยนต์คันเกิดเหตุซึ่งเป็นรถของหน่วยงานราชการพังเสียหาย พร้อมขอรับผิดชอบทั้งหมด
ด้านเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ได้ออกมายอมรับว่า ชายเสื้อดำที่ก่อเหตุ เป็นข้าราชการในสังกัด เบื้องต้นได้สั่งย้ายเข้ามาประจำส่วนกลางพร้อมตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว หลังพบมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ขณะที่ล่าสุด ชายที่ก่อเหตุได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.ดอนเมือง พร้อมขอโทษผู้บาดเจ็บและสังคมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะชดใช้ค่าเสียหายและดูแลค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้ปืนข่มขู่คู่กรณี
ด้านตำรวจเปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ก่อเหตุ อ้างว่าขณะเกิดเหตุมีปากเสียงกับคู่กรณีและมีคนมามุงดูจำนวนมาก กลัวจะเหตุเกิดไม่คาดฝันจึงไปหยิบปืนมาพกไว้เพื่อเตรียมไว้ป้องกันตัว เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา มีและพกอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ทำร้ายร่างกาย และข่มขู่ โดยผู้ก่อเหตุปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
July 13, 2020 at 11:30PM
https://ift.tt/304Rmp8
เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ขอโทษขับรถชน-เตะคู่กรณีซ้ำ ปฏิเสธใช้ปืนข่มขู่ [เจาะเกาะติด] - ช่อง 7
https://ift.tt/3diZ6Jh
Home To Blog
No comments:
Post a Comment